วิธีเลือกลิปสติกสีแดง ให้เข้ากับโทนผิว
เราเชื่อว่าในโต๊ะเครื่องแป้ง กรุลิปสติกของสาวๆต้องมี ลิปสติกสีแดง อย่างน้อย 1 แท่งแม้ว่าลิปสีแดง จะเป็นสีที่สาวๆมองว่าทาไม่ได้บ่อยๆเท่าสีอื่นๆ ทายาก ดูจัดจ้านเกินไป จะได้ทาก็ต่อเมื่อออกงานพิเศษ หรือไปเที่ยวกลางคืน แต่อย่างน้อยสาวๆก็ ควรมีลิปสติกสีแดง อย่างน้อย 1 แท่งพกไว้อุ่นใจ เพราะเราไม่รู้ว่าแต่ละวันเราจะเจอเหตุการณ์เร่งด่วนอะไรบ้างแค่หยิบลิปสีแดงมาทาก็เปลี่ยนลุคสาวๆขึ้นมาได้ทันที แม้จะไม่ได้ make up จัดเต็มมาก็ตาม แถมยังช่วยเสริมให้บุคลิกดูมั่นใจ ไม่กลัวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้อีกด้วย แต่ปัญหาของลิปสีแดงที่มีหลายเฉด แล้วเราจะเหมาะกับเฉดแบบไหน วันนี้เรามีวิธีมาแนะนำสาวๆกันค่ะ
วิธีการทาลิปสติกสีแดงให้เป๊ะปังยิ่งขึ้น!! ด้วยการเขียนขอบปากโดยใช้ลิปไลเนอร์สีแดง และเก็บขอบปากด้วยคอนซิลเลอร์ หรือ วิธีทาแบบ Ombre ไล่ระดับสีสำหรับสาวๆที่ยังไม่มั่นใจกับการทาเต็มปาก ใช้คอนซิลเลอร์กลบปาก ทาลิปแค่ด้านในเหมือนทิ้น แล้วใช้คอนตอนบัตเกลี่ยๆ ก็จะได้ลุคนัวๆแถมริมฝีปากก็จะดูจิ้มลิ้มขึ้น
สาวผิวขาวอมชมพู Cool tone สาวที่มีผิวขาวสว่าง อมชมพู ควรเลือกลิปสติกสีแดงสด แดงมะเขือเทศตัดกับผิว ช่วยขับผิวให้ขาวผ่องดูสุขภาพดี ให้ลองนึกถึง Taylor กับ Emma stone ได้เลยผิวขาวสว่างที่พอทาลิปสีแดงสดแล้วสวยมากๆ
สาวผิวขาวอมเหลือง Warm tone สาวที่ผิวขาวเหลืองควรทาลิปสติกสีแดงโทนแดงเบอร์รี่ แดงมะเหมี่ยว หรือสีแดงที่มีเบสสีชมพู เพราะจะยิ่งช่วยขับให้ผิวขาวเหลืองให้ดูผุดผ่อง ไม่ซีดหมอง
สาวผิวสองสี Neutral tone สาวผิวสองสี เป็นโทนของสาวเอเชียเลยก็ว่าได้ สามารถทาลิปสติกสีแดงได้ทุกโทนเลยทั้ง warm tone และ cool tone เรียกได้ว่าเป็นความโชคดีมากๆ
สาวผิวเข้ม Dark Skin Tone สาวๆอาจจะมองว่าข้อจำกัดของสาวผิวเข้มอย่างเราทำให้เลือกลิปสติกสีแดงยาก แต่ป่าวเลย การทาลิปสติกสีแดงสามารถทาได้ทุกโทนเลย สีแดงCool tone ก็ให้ลุคที่ดูธรรมชาติเข้ากับสีผิวเข้ม สีแดง warm tone ก็ให้ลุคที่ดูเปรี้ยว มั่นใจขึ้น
เห็นมั้ยคะทุกคน ว่าการเลือกเฉด ลิปสติกสีแดง ให้เข้ากับผิวตัวเอง ไม่ยากเลยใช่มั้ยแต่เราว่าจะแดงโทนไหน ถ้าเราทาแล้วเรามั่นใจก็ลุยเลย เพราะลิปสติกสีแดงนอกจากจะแสดงถึงความสวยงามและความมั่นใจของสาวๆเราแล้ว ยังทาได้ทุกยุคทุกสมัย ไม่มีตกเทรนด์อีกด้วย
Cr.รูปภาพจาก Pinterest