ประสบการณ์ ‘เซบเดิร์ม’ หน้าแพ้ผิวหนังอักเสบ

Posted on

ประสบการณ์ ‘เซบเดิร์ม’ หน้าแพ้ผิวหนังอักเสบ

วันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์การเป็น ‘เซบเดิร์ม ผิวแพ้ อักเสบ’ 

กระทู้นี้ ขอเขียนเล่าประสบการณ์และปัญหาที่เราเจอแบบละเอียด

รวมทั้งการทำความรู้จักกับ ‘เซบเดิร์ม’ ที่บางคนอาจจะไม่รู้จัก มารู้อีกทีตัวเองก็เป็นแล้ว

โดยในส่วน Skin care & MakeUp เขียนไว้อีกกระทู้

สามารถอ่านได้ Click  https://goo.gl/tXo9uB

พื้นฐานเดิมเราเป็น คนผิวผสม ค่อนไปทางมัน มีสิวอุดตัน
เมื่อต้นปี 2017 อาการ “เซบเดิร์ม” แรกๆเลยคือ อาการคัน ล้ะเป็นผื่นแดง แห้ง เป็นขุย
 (บางทีเห่อหนักคล้ายขี้กลากเลย TT)
.
เป็นหนักตรง มุมปาก ข้างปีกจมูก ตรงแก้ม พีคๆก็จะมาทั้งหน้าเลยยกเว้นหน้าผาก
ทาอะไรที่ว่าอ่อนโยนก็ยังแสบ ล้างน้ำเปล่ายังแสบ ความรู้สึกแย่ยิ่งกว่าตอนเป็นสิวมาก
.
ตอนแรกเราเข้าใจ คิดว่าตัวเองอาจจะแพ้ของที่ใช้ก็เปลี่ยนทุกอย่าง
ตั้งแต่คลีนซิ่ง ยันสกินแคร์ให้อ่อนโยน และเน้นความชุ่มชื่น ซักที่นอน สระผมบ่อยๆ
เพราะมันขึ้นตรงไรผมด้วย เป็นสิวไขมันแห้งๆแค่นิ้วสะกิดก็หลุด 
ทำแบบนี้เดือน 2 เดือนก็ไม่หาย
.
เลยตัดสินใจไปหาหมอ คุณหมอก็ให้ยามาทาน และยาทา
ซึ่งก็หาย แบบไวมาก จนน่าตกใจ น่าจะเพราะสเตียรอยด์
กลายเป็นทุกครั้ง เจ้าเซบเดิร์มก็จะกลับมาเยือน
และเราก็ต้องไปหาหมอเพื่อรับยามาทาน (เหมือนผิวหน้าติดยา)

พอหน้าดีขึ้น ก็แต่งหน้าจัดเต็มได้สบายใจ

ไม่ต้องพึ่งแอพแล้วปรับโหมดหน้าใสแล้ว 555

v
v
v

แต่ …. แต่…..ทุกคนคะ !!

เพราะ เซบเดิร์ม มันไม่หายขาด มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตด้วยส่วนสำคัญ
เราเครียด นอนดึก กินของมัน ดื่มน้ำน้อย ชะล่าใจไปจิบเบียร์ (เบียร์มียีสต์)
(เป็นเซบเดิร์มต้องงดอาหารประเภทมียีสต์)
หน้าเห่อรุนแรงเป็นอีกครั้งจ้าพี่จ๋า แต่คราวนี้ตั้งใจแล้วว่าจะเลิกยาแรงๆ
หรือสเตียรอยด์ในการรักษาแล้วขอช้าแต่ชัวร์ดีกว่า เลยเปลี่ยนที่รักษาใหม่
.
.
ยาที่ได้คุณหมอจะเน้นเป็นรักษาสิว พวกต่อมไขมันใต้ผิวหนังก่อน
แล้วพวกขุยพวกรอยก็จะดีขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ(ต้องอดทนสุดๆ) เราก็หาหมอรักษาอย่างต่อเนื่อง
รู้สึกหน้ามันน้อยลง สิวผดๆ สิวไขมันน้อยลง ความเนียนบนหน้าเริ่มมา
แต่ขุยแดงๆ หน้าแห้งกรังมาก อาการคันมีบ้างเวลานอนดึก
.
พอจะเข้าต้นปี เราเล็งเห็นว่า การกินยาแล้วใช้ยาหมอมาตลอดทั้งปี
มันคล้ายกับว่าเราต้องพึ่งสารเคมีในการรักษาตลอดเวลา + พฤติกรรมส่วนตัวเราไม่ชอบกินยา
เราเลยจับจุดการใช้ชีวิตประจำวัน และการเลือกหาผลิตภัณฑ์ดีๆมาเริ่มใช้ร่วมก่อนยาหมอชุดสุดท้ายจะหมด
ผลลัพธ์ที่ได้ ค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจมากๆ
แต่….ถึงแม้สภาพหน้าจะดีขึ้นเวลาเดินทางเจออากาศชื้นๆ
หรือนอนดึก มันก็จะกลับมาเป็นแต่ก็ไม่เห่อหนักเท่าตอนแรกแล้ว
เพราะเราเริ่มจับทางได้แล้ว โดยดูแลตัวเองจากภายในเป็นหลัก แล้วรักษาภายนอกตาม
ผิวหน้าค่อนข้างดีขึ้น แต่มีตรงมุมปากเป็นขุย และรอยคล้ำจากการแพ้ยาสีฟัน

ซึ่งจากที่เราและเพื่อนเป็น รวมทั้งได้ศึกษาจากทาง internet เพิ่มเติม โรค‘เซบเดิร์ม’

หรือ ชื่อเต็มๆคือ โรค Seborrheic Dermatitis เป็นโรคที่มีภาวะผิวหนังแพ้ง่าย และ อักเสบจากต่อมไขมัน ในชั้นผิวหนัง

การเกิดผื่นเซ็บเดิร์มเป็นการอักเสบจากภายใน ไม่ใช่การแพ้สัมผัสจากภายนอก

มีอาการเรื้อรัง ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ส่งผลต่อชีวิตประจำวัน และจิตใจโดยตรง

*สาเหตุของโรค มีได้หลายข้อ

  • จากเชื้อยีสต์ เชื้อราบางตัว ที่อาศัยบนผิวหนัง
  • จากพันธุกรรม
  • จากพฤติกรรม  เครียด พักผ่อนน้อย  กินอาหารไม่เป็นประดยชน์ ไม่ออกกำลังกาย
  • จากสภาพอากาศที่เย็นชื้นและแห้ง
  • ภาวะแทรกซ้อนจากโรคบางชนิด ผลพวงจากการใช้ยารักษาโรค เช่น HIV โรคพากินสัน หรือโรคระบบทางเดินประสาทบางชนิด
  • หน้าแพ้หรือติดสารสเตียรอยด์ มาก่อนมีภาวะเสี่ยงการเป็นเซบเดิร์มได้ง่ายมาก
* ข้อควรสังเกตตัวเองว่าใบหน้าเป็น ‘เซบเดิร์ม’ หรือป่าว ?
  • มีผื่นแดง บางคนก็เป็นดวงๆ คันและแสบยิบๆบริเวณใบหน้า
  • ล้างหน้า ใช้โฟม หรือ Skin care อะไรก็แสบไปหมด
  • หลังจากคัน และมีผื่น จะเริ่มมีความแห้ง หน้าลอกตามมา
  • คนที่หน้ามัน เป็นสิวอยู่ทุนเดิมจะพบว่าสิวอุดตัน สิวผดหัวแข็งๆเยอะมาก
  • บริเวณที่มักพบบ่อยบนหน้า  เช่น ข้างจมูก มุมปาก ไรผม หว่างคิ้ว  หลังหู (นอกเหนือจากนั้นของเพื่อนเราคือเป็นที่หนังศีรษะและต้นคอ )
  • มักจะชอบเป็นเมื่อเจออากาศชื้นๆ หรือการเดินทางบ่อย ผิวปรับสภาพตามอากาศไม่ทัน
  • เป็นๆหายๆ

* การรักษาจาก ‘เซบเดิร์ม’

  • ถ้าคัน แสบ พยายามอย่าไปแกะ ไปเกากระตุ้นให้ลามไปทั่วหน้า
  • พักผ่อนให้เพียงพอ อย่านอนดึกหักโหม
  • ดื่มน้ำเยอะๆ
  • พยายามอย่าเครียด (ทำยาก แต่ทำได้ก็จะดีมากๆ)
  • ออกกำลังกายควบคู่ (ข้อนี้ถ้าทำได้สม่ำเสมอ ผลลัพธ์ที่ได้วงกว้างมาก)
  • ปรับอาหารการกิน อะไรที่ห้ามก็ละเว้น ,กินอาหารมีประโยชน์ ,ของทอดของมัน ของหวาน ทานน้อยลง ถ้าตัดได้ก็ตัดไปเลยยิ่งดี

สุดท้ายแล้ว ใน Internet ข้อมูลเกี่ยวกับ ‘เซบเดิร์ม’ คือเยอะมาก

มีคนอื่นๆที่ก็เผชิญหน้าเหมือนเราแต่ถ้าอาการหนักมากไม่สามารถรักษาเองได้ในเริ่มต้นแนะนำให้ปรึกษาหมอก่อน

แล้วหลีกเลี่ยงการใช้ยาสเตียรอยด์ น่าจะดีที่สุด สำคัญต้องอดทน อดทนต่อการรักษา

ต่อการใช้ชีวิตประจำวันเมื่อมีคนทักให้กำลังใจตัวเองว่าเดี๋ยวมันจะค่อยๆดีขึ้น เปลี่ยนวิกฤตตรงนี้ให้เป็นโอกาส

ในการดูแลตัวเองจากภายใน และการเลือกสิ่งดีๆให้กับร่างกายและผิวหน้า

สู้ๆนะคะทุกคน